ตัวเลขการค้าไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP ในเดือน มกราคม - กันยายน 2566 พบว่า
1. การค้ารวม ไทยมีมูลค่าการค้ากับกลุ่มประเทศ RCEP 236,368.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 6.09 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 54.72 ของมูลค่าการค้าไทยกับโลก มีคู่ค้าสำคัญคือ อาเซียน จีน และญี่ปุ่น โดยไทยขาดดุลการค้ากับ RCEP มูลค่า 17,599.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจีนคือ คู่ค้าที่ไทยขาดดุลการค้ามากที่สุด มูลค่า 26,249.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคู่ค้าที่ไทยได้ดุลการค้ามากที่สุดคือ อาเซียน มูลค่า 12,751.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. การส่งออก ไทยส่งออกไปกลุ่มประเทศ RCEP มูลค่า 109,384.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 5.89 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51.34 ของมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก โดยสินค้าอุตสาหกรรม (เช่น ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ) เป็นสินค้าที่ไทยส่งออกมากที่สุด สัดส่วนร้อยละ 70 รองลงมาคือ สินค้าเกษตรกรรม (เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง) สัดส่วนร้อยละ 13.49 สินค้าที่ขยายตัวมากที่สุด คือ สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร (เช่น น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.30 และสินค้าที่หดตัวมากที่สุดคือสินค้าแร่และเชื้อเพลิง (เช่น น้ำมันสำเร็จรูป สินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่น ๆ) หดตัวร้อยละ 17.78
3. การนำเข้า ไทยมีมูลค่าการนำเข้าจากกลุ่มประเทศ RCEP 126,983.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 6.25 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.01 ของมูลค่าการนำเข้าจากตลาดโลก โดยมีสินค้าที่นำเข้ามากที่สุดคือสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (เช่น พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เคมีภัณฑ์ อัญมณี) สัดส่วนร้อยละ 39.95 รองลงมา คือ สินค้าทุน (เช่น เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ) สัดส่วนร้อยละ 26.70 และสินค้าเชื้อเพลิง (เช่น น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซปิโตรเลียม) สัดส่วนร้อยละ 11.90 ทั้งนี้ ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง (เช่น ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์) ขยายตัวมากที่สุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.22