ตัวเลขการค้าของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP ในเดือนมกราคม-เมษายน 2566 พบว่า
1) การค้ารวมของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-เมษายน 2566 มีมูลค่า 105,532.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.98 เมื่อเทียบกับการค้ารวมกับโลก โดยลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.07 และไทยขาดดุลการค้า 10,192.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คู่ค้าหลักของไทยใน RCEP ยังคงเป็น อาเซียน จีน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายตลาดคู่ค้าของไทย พบว่าการค้ารวมกับจีน และออสเตรเลีย ยังคงขยายตัวในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 โดยจีนขยายตัวที่ร้อยละ 0.33 และออสเตรเลียขยายตัวที่ร้อยละ 5.33 ในขณะที่ตลาดอื่นหดตัวทั้งหมด
2) การส่งออกของไทยไปกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-เมษายน 2566 มีมูลค่า 47,670.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกหดตัว 2 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม (เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์) หดตัวร้อยละ 8.63 และสินค้าแร่และเชื้อเพลิง (เช่น น้ำมันสำเร็จรูป) หดตัวร้อยละ 7.95 ในขณะที่สินค้าเกษตร (เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง) ขยายตัวร้อยละ 14.82 และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร (เช่น น้ำตาลทราย) ขยายตัวร้อยละ 5.14
3) การนำเข้าของไทยจากกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-เมษายน 2566 มีมูลค่า 57,862.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 1.64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการนำเข้าหดตัวใน 3 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (เช่น เคมีภัณฑ์) หดตัวร้อยละ 6.63 สินค้าทุน (เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ) หดตัวร้อยละ 9.77 และสินค้าอุปโภคบริโภค (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน) หดตัวร้อยละ 1.02 ในขณะที่กลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงและยานพาหนะ ยังคงขยายตัวได้ดี คิดเป็นร้อยละ 24.04 และร้อยละ 30.29 ตามลำดับ