ตัวเลขการค้าของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP ในเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566 พบว่า
1) การค้ารวมของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566 มีมูลค่า 132,631.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.48 เมื่อเทียบกับการค้ารวมกับโลก โดยลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.20 และไทยขาดดุลการค้า 12,258.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คู่ค้าหลักของไทยใน RCEP ยังคงเป็น อาเซียน จีน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายตลาดคู่ค้าของไทย พบว่าหดตัวในเกือบทุกตลาด ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีเพียงออสเตรเลียที่ขยายตัวร้อยละ 3.16
2) การส่งออกของไทยไปกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566 มีมูลค่า 60,186.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.90 โดยการส่งออกหดตัว 2 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม (เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์) หดตัวร้อยละ 7.33 และสินค้าแร่และเชื้อเพลิง (เช่น น้ำมันสำเร็จรูป) หดตัวร้อยละ 17.88 ในขณะที่สินค้าเกษตร (เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง) ขยายตัวร้อยละ 0.07 และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร (เช่น น้ำตาลทราย) ขยายตัวร้อยละ 7.37
3) การนำเข้าของไทยจากกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566 มีมูลค่า 72,445.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.74 โดยการนำเข้าหดตัวใน 3 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (เช่น เคมีภัณฑ์) หดตัวร้อยละ 7.31 สินค้าทุน (เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ) หดตัวร้อยละ 8.88 และสินค้าอุปโภคบริโภค (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน) หดตัวร้อยละ 1.35 ในขณะที่กลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง และยานพาหนะ ยังคงขยายตัวได้ดี คิดเป็นร้อยละ 13.56 และร้อยละ 30.51 ตามลำดับ