ตัวเลขการค้าของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP ในเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 พบว่า
1) การค้ารวมของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-มีนาคม 2566 มีมูลค่า 79,873.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.62 เมื่อเทียบกับการค้ารวมกับโลก โดยลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.52 และไทยขาดดุลการค้า 8,227.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คู่ค้าหลักของไทยใน RCEP ยังคงเป็น อาเซียน จีน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายตลาดคู่ค้าของไทย พบว่าหดตัวในทุกตลาด ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 โดยอาเซียนหดตัวที่ร้อยละ 1.06 จีนหดตัวที่ร้อยละ 2.86 ญี่ปุ่นหดตัวที่ร้อยละ 3.32 เกาหลีใต้หดตัวที่ร้อยละ 4.53 ออสเตรเลียหดตัวที่ร้อยละ 3.54 และนิวซีแลนด์หดตัวที่ร้อยละ 18.47
2) การส่งออกของไทยไปกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-มีนาคม 2566 มีมูลค่า 35,823.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.85 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกหดตัว 2 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม (เช่น เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์) หดตัวร้อยละ 7.41 และสินค้าแร่และเชื้อเพลิง (เช่น น้ำมันดิบ) หดตัวร้อยละ 3.20 ในขณะที่สินค้าเกษตร (เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง) ขยายตัวร้อยละ 2.85 และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร (เช่น น้ำตาลทราย) ขยายตัวร้อยละ 6.41
3) การนำเข้าของไทยจากกลุ่มประเทศ RCEP เดือนมกราคม-มีนาคม 2566 มีมูลค่า 44,050.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 0.55 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการนำเข้าหดตัวใน 3 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (เช่น เคมีภัณฑ์) หดตัวร้อยละ 5.77 สินค้าทุน (เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ) หดตัวร้อยละ 9.03 และ สินค้าอุปโภคบริโภค (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน) หดตัวร้อยละ 0.89 ในขณะที่กลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง และยานพาหนะ ยังคงขยายตัว